[Scoop] นายทหารรับจ้างปากตะไกร Deadpool กับบทสัมภาษณ์ของ Ryan Reynolds พระเอกของเรื่องและทีมงาน

 IMG_2474 IMG_2475

สวัสดีผู้อ่านบล๊อกของผมทุกท่านครับ เนื่องจากว่าช่วงนี้ที่อเมริกาจะเป็นงาน Comic-con สำหรับคนที่ไม่ทราบว่าเป็นงานอะไร ก็จะขออธิบายคร่าวๆนะครับ ว่าเป็นเหมือนงานที่ซีรีส์ หนัง หรือ เกม จากค่ายดังๆ จะมาออกงาน เช่นถ้าเป็นซีรีส์ใหม่ก็อาจจะมีการฉาย Trailer หรือคุยกับนักแสดง หรือสำหรับซีรีส์เรื่องอื่นๆที่ฉายไปแล้ว ก็จะเป็นการคุยกับนักแสดงและพูดถึงทิศทางที่จะเกิดขึ้นใน Season ถัดไปครับ และด้วยความที่เป็นงานใหญ่และสำคัญของบันเทิงตะวันตก นิตยสาร Entertainment Weekly เลยได้ไปสัมภาษณ์ Ryan Reynolds ผู้รับบทแอนตี้ฮีโร่สุดแสบ และปากเสียเป็นที่สุดอย่าง Deadpool ว่าแล้วก็เชิญอ่านต่อกันได้เลยครับ

IMG_2470

คนที่เผยแพร่คลิปสั้นทดลองฉายของหนัง Deadpool จะออกมากันนะ ? Ryan Reynolds อยากจะจุมพิตกับคุณอย่างดูดดื่มเลยทีเดียว “และคงไม่ใช่จูบกันสั้นๆหรอกครับ” Ryan กัดฟันกล่าว “ผมจะจูบเค้าทั้งปาก ดูดดื่ม แล้วใช้ลิ้นด้วย ซัก 2 นาทีแบบถ่ายทอดสดทางทีวีไม่มีโฆษณาคั่นกันไปเลย แล้วก็จะเลี้ยงข้าวเย็นที่ร้าน Red Lobster แล้วก็ของหวานอีกหน่อย”

Reynolds กำลังสวมบทเป็นตัวละครของเค้า – ชายหนุ่มผู้เป็นอิสระจากทุกฝ่าย ปากร้ายช่างประชดประชัน Wade Wilson หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Deadpool แต่ทว่าสิ่งที่เค้าพูดไปเมื่อกี้มันมาจากใจนี่สิ ตัวเขาเองอยากจะเล่นเป็นซุปเปอร์ฮีโร่(หรือโคตรแอนตี้ฮีโร่) ผู้มีศีลธรรมอันวิบัติของ Marvel มาหลายปีดีดักแล้ว จนกระทั้งการรอคอยของเค้าก็สิ้นสุดลงในปี 2011 ซึ่งเป็นปีที่ทาง 20th Century Fox ได้ดูฉากแอคชั่นความยาว 1 นาที 41 วินาที ฝีมือของผู้กำกับมือใหม่ Tim Miller แล้ว…ก็ให้ตัวหนังค้างเติ่งคอยอยู่แบบนั้น

แต่พวกเค้าก็มีข้อโต้แย้งในมุมของตัวเอง ถึงตัว Deadpool จะไม่ใช่ตัวละครที่คนจะชอบง่ายๆ และด้วยตัวเรื่องของมันเอง ก็ไม่ใช่ Blockbuster ซะทีเดียว แต่ในคอมมิคของตัว Deadpool เอง กลับมีทั้ง ความหัวรั้นอันรุนแรง, ขัดแย้งกับหลักศีลธรรม, เผ็ด, ตลก และเป็นศูนย์กลางของจักรวาล อีกทั้งยังมีนายทหารรับจ้างผู้เข้ารับการรักษาโรคมะเร็ง แต่มันกลับทำให้เค้าบ้าคลั่งและมาพร้อมกับพลังอันยิ่งใหญ่อีกด้วย ซึ่งตรงนี้แหละที่มันทำให้มีศักยภาพที่จะก้าวไปเป็นภาพยนตร์บนจอใหญ่ได้ และนักแสดงนำสุดหล่อของคุณยังต้องปิดบังใบหน้าภายใต้หน้ากากลาเท็กซ์สีแดงแทบจะตลอดเวลา เพื่อปกปิดความผิดปกติและรอยแผลเป็นบนหน้า

deadpool_comic_4th_wall

แล้วนี่เราได้พูดถึงทัศนคติของเค้าหรือยัง ? Deadpool ในหนังสือการ์ตูนนั้น เค้ามักจะทลายขนบและคุยกับผู้อ่านโดยตรง เช่น (“คุณเห็นไอ้กล่องเหลืองๆนั่นป่ะ?” Deadpool ถามแล้วก็ชี้ไปที่กรอบคำพูดในหน้าที่เค้าอยู่) และเค้ามักจะเล่นมุกแป้กๆในหัวเรื่องบ้านๆ เช่น “เฮ้ย-เดี๋ยวก่อน” Deadpool หยุดศัตรูที่จะเข้ามาหาเค้า “แกไม่รู้หรอกว่าชั้นเป็นโรค STD กี่สายพันธุ์?”  อีกทั้งยังเป็นพวกปฏิเสธตัวเอง บางทีก็พูดว่าตัวเองเป็นพิษภัยของ Box Office ด้วยซ้ำ

และด้วยความแปลกของมันเอง จึงทำให้โปรเจกต์หนังเรื่องนี้ยิ่งริบหรี่ลงไปอีก แต่ท้ายที่สุดตัวละครตัวนี้ก็ถีบตัวเองออกมาโลดแล่นจนได้ ในงาน San Diego Comic-con ในช่วงวันสุดท้ายของงานประชุม คลิปที่ Miller เคยเอาไปเสนอกับทางสตูดิโอถูกปล่อยออกมาออนไลน์ “ตอนนั้นตัวผมเองอยู่ที่สถานีรถไฟกำลังจะกลับบ้านครับ” Miller กล่าว “แล้วคือมือถือผมแทบระเบิดเพราะ Google Alerts ที่เกี่ยวกับ Deadpool ผมรีบส่งเมล์ไปหาทาง Fox เนื้อความว่า “ผมสาบานได้ผมไม่ได้ทำนะ” คนก็คิดว่าผมทำอยู่ดี ทั้งๆที่ผมไม่ได้ทำ แต่กระแสการตอบรับจากแฟนๆมันท่วมท้นมากครับ และมันทำให้โปรเจกต์ไฟเขียวได้ไปต่อ จนพวกเราต้องรีบเตรียมโปรดักชั่นให้เสร็จภายในเวลาแค่สองเดือน

ตัวหนัง (ฉาย 12 กุมภาพันธ์) จะพูดถึงว่า Wade Wilson ที่กำลังป่วยนั้นได้กลายเป็น Deadpool ไปได้อย่างไร จนได้รับพลังที่มีความคล้ายกับ Wolverine ที่สามารถเยียวยาร่างกายตัวเองได้ และเรื่องราวของการได้ดาบคู่คาตานะที่มีชื่อว่า Bea และ Arthur โดยตัวเค้าจะตกหลุมรักนักเต้นรูดเสา Vanessa (แสดงโดย Morena Baccarin จากซีรีส์ Homeland) ในขณะที่ต้องสู้กับ Ajax  นายทหารผู้บ้าคลั่ง (แสดงโดย Ed Skrein ผู้รับบท Daario ใน Game of Thrones ss3) อีกทั้งยังมีนักแสดงสาวและนักต่อสู้ของ MMA อย่าง Gina Carano (สตันท์ผู้หญิงไม่จำเป็นเลย) โดยจะรับบทเป็นตัวละครจากหนังสือการ์ตูน X-men ชื่อ Angel Dust และ สตันท์แมนความสูง 6’10” อย่าง Andre Tricoteux จะมาเล่นเป็นมิวแทนท์ผู้ติดตามนาม Colossus

Ed Skrein ผู้รับบท Ajax
Ed Skrein ผู้รับบท Ajax
Gina Carano ผู้รับบทเป็น Angel Dust
Gina Carano ผู้รับบทเป็น Angel Dust

ส่วนบทของเรื่องนี้ได้ Rhett Reese และ Paul Wernick ผู้เขียนบทให้กับหนัง Zombieland โดยตัวหนังมีการถ่ายทำมี Vancouver ช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ ใช้เวลา 49 วัน กับเงินทุนที่ไม่มากนัก เพราะได้เพียงแค่ 1/4 จากทุนที่หนังฮีโร่ดังๆใช้เท่านั้น Reynolds เสริมว่า “มันเท่ากับเงินที่หนัง X-men ใช้ไปกับการเลเซอร์กำจัดขนให้กับนักแสดงเองครับ” และยังเคยมีนักแสดงเล่นเป็น Deadpool ในเวอร์ชั่นที่ซอฟต์กว่าในหนัง X-Men Origins: Wolverine(2009)  (2 ปีก่อนที่ Reynolds จะได้ไปแสดงเป็นฮีโร่ดวงกุดอย่าง Green Lantern) เพราะงั้น Miller จึงอนุญาตให้ตัวละครของ Reynolds แรงเกินเรท PG-13 ได้

“Deadpool ต้องเรท R แบบแรงๆเลยครับ” โปรดิวเซอร์ Simon Kinberg (X-men: Days of Future Past) กล่าวเสริม “มันก็แค่ภาพกราฟฟิก ไม่ได้มีอะไรต้องห้ามซักหน่อย คุณต้องยอมรับกับหนังที่ลูกบ้าเยอะและไปไกลเกินขอบเขต หรือคุณจะไม่ยอมล่ะ” Kinberg ยกเรื่อง Borat ที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าประหลาดขึ้นมาอ้าง “มันมีทั้งมุกด้านอนาธิปไตยแบบสุดโต่ง, มันจำเพาะเจาะจง และแปลก อีกทั้งยังสนุกสุดๆเมื่อได้ดูครั้งแรก” เค้ากล่าว “ผู้ชมต่างไปดูและชอบมัน” ในหนังนั้น Deadpool จะไม่ได้เป็นโรค Schizophrenia(โรคจิตเภท) เหมือนอย่างในหนังสือการ์ตูน แต่การทำแบบนี้ของ Miller ก็อาจจะเป็นการคลายกังวลของแฟนๆของ Deadpool ได้อยู่บ้าง “ผมรู้สึกว่า Fight Club และ Tyler Durden เป็นคู่ที่เหมาะกันดี” เขากล่าว “พวกเราต้องอยู่ในคลับระบำเปลื้องผ้า และที่ร้านเหล้า แล้วก็อพาร์ตเมนต์โทรมๆ ซึ่งมันต่างจากโลกอันเจิดจรัสของพวก X-men”

พวกแฟนที่หัวเคร่งๆอาจจะรู้สึกดีกับข่าวนี้ แต่ผู้ชมคนอื่นๆจะมีอารมณ์ร่วมไปกับพวกเราไหมก็ยังไม่แน่นอน แต่มันก็เหมือนกับการเล่นพนันที่ทุกคนต้องร่วมกันเสี่ยง โดยเฉพาะนักแสดงที่อยากจะให้งานมันออกมาดี “ผมทราบว่าทางสตูดิโอก็ไม่อยากจะมีปัญหาและทำให้อะไรมันถูกต้องด้วยดี” Reynolds กล่าว “นี่ผมก็ได้ขับรถเล่นไปเรื่อยๆใน New York นะ แล้วก็ได้เห็นคน 3-4 คน แต่งตัวเป็น Deadpool มันเหมือนมีแสงสีแดงเข้าตาผมพอดีเลย ผมรู้ครับว่ามันเสี่ยง แต่ผมเชื่อว่าคนดูจะเปิดใจรับเจ้าชุดแดง ผมหมายถึงว่าใครกันที่จะไม่อยากดูตาบ้าศีลธรรมเพี้ยนในชุดสีแดงกันล่ะ?” คำถามนี้คงมีมาเป็นปีๆแล้วมั้ง…

เครดิต : บทสัมภาษณ์จากนิตยสาร Entertainment Weekly ฉบับพิเศษ July2015

ใส่ความเห็น