[Review] Zoo : เมื่อมนุษย์ที่เคยเป็นผู้ล่าสัตว์ กลับถูกล่าเสียเอง

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ เนื่องจากว่าที่อเมริกานั้นเป็นฤดูกาลใหม่ เพราะฉะนั้นซีรีส์ใหม่ๆก็จะพาเหรดกันลงจอให้ผู้ชมได้เลือกสรรและรับชมตามความชอบใจของตัวเอง วันนี้ผมก็ได้เจอกับซีรีส์ใหม่ของทางช่อง CBS ซึ่งตอนนี้ได้ออกมา 2 ตอนแล้ว (ณ วันที่ 10 ก.ค 2015) กับซีรีส์ “Zoo” มหันตภัยเดรัจฉานล้างโลก ซีรีส์แนว Drama, Sci-Fi, Thriller ที่จะทำให้คุณต้องระทึกไปกับการล่าของเหล่าเดรัจฉานที่ต้องการจะเอาคืนมนุษย์

zoo (1) 15790934

Zoo นั้นถูกดัดแปลงมาจากนวนิยายขายดีอันดับ #1 ในอเมริกา จากฝีมือของ 2 นักเขียน Jame Patterson และ Michael Ledwidge เราอาจจะเคยได้ดูซีรีส์เกี่ยวกับมหันภัยทางธรรมชาติ หรือโรคภัยไข้เจ็บประหลาดๆ หรือถ้าแฟนตาซีขึ้นมาซักหน่อย ก็คงจะเป็น ซอมบี้หรือเหล่าแวมไพร์กระหายเลือดบุกเมืองล่าล้างมนุษย์ แต่ Zoo กลับยกให้สัตว์บนโลกที่อยู่ร่วมกับมนุษย์นั้นเป็นภัยหลักสำคัญที่มีผลต่อมนุษย์ มนุษย์เราอาจจะอยู่เหนือห่วงโซ่ทางชีวภาพเนื่องด้วยความฉลาดและสติปัญญา แต่จริงๆแล้วมนุษย์กับเป็นเผ่าพันธุ์ที่เปราะบางมาก เราอาจจะล่าสัตว์เพื่ออาหาร หรือความสนุก ทรมานสัตว์โดยการกักขัง นำมาฝึกฝนเพื่อความบันเทิงเริงใจของตัวเราเอง แล้วถ้าวันหนึ่งสัตว์เดรัจฉานเหล่านี้หมดความอดทนอยากจะโต้กลับมนุษย์ที่เคยหยิ่งผยองว่าตัวเองเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ถึงขั้นสูญพันธุ์คงจะเป็นเรื่องที่เป็นภัยไม่น้อยเลยทีเดียว

 Screenshot (1024) Screenshot (1023)

ในซีรีส์เรื่อง Zoo นั้น จะไม่ได้เจาะจงไปที่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งใน 2 ตอนแรกนั้น จะแบ่งออกเป็นเรื่องราวของตัวละครหลายตัว และแต่ละตัวละครก็จะมีหน้าที่ในการหาความจริงของการเกิดเหตุเดรัจฉานทำร้ายมนุษย์มากขึ้นก่อนที่อะไรจะสายเกินแก้ ซึ่งในช่วงแรกของซีรีส์เราจะได้พบกับ Jackson Oz (แสดงโดย James Wolk) หนุ่มนักสัตววิทยาที่เป็นมัคคุเทศก์อยู่ภายในซาฟารีเขตบอสวาน่า กับเพื่อนของเขา Abraham Kenyatta (แสดงโดย Nonzo Anozie) ซึ่งพ่อของ Jackson เอง เป็นนักวิทยาศาสตร์ศึกษาเรื่องพฤติกรรมสัตว์ และเสนอแนวคิดว่าสัตว์บนโลกเริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปที่มีการทำร้ายมนุษย์มากขึ้น ซึ่งทฤษฎีของพ่อเค้านั้นกลับถูกโต้แย้งโดยนักวิทยาศาสตร์สายหลักต่างๆ จึงทำให้ Jackson นั้น ต้องทำการศึกษาสัตว์ในซาฟารีที่เค้าทำงานอยู่ และแน่นอนด้วยความที่เป็นซาฟารี ในแอฟริกา แถบบอสวาน่า Jackson และ Abraham ต้องพบเจอกับการโจมตีของเหล่าสิงโตกระหายเลือด ส่วนทั้งคู่จะต้องเจอกับอะไร อยากให้ลุ้นและรับชมเองจะดีกว่าครับ

Screenshot (1025) Screenshot (1026)

และแน่นอนครับ เมื่อมีฝั่งป่า ก็ต้องมีฝั่งป่าคอนกรีตหรือเมืองที่เราต่างอาศัยกันนั่นเอง ซึ่งในเรื่องจะเป็น Los Angeles ครับ เราจะได้พบกับนักข่าวและบล๊อกเกอร์สาว  Jamie Campbell (แสดงโดย Kristen Connolly) และสัตวแพทย์ด้านพยาธิวิทยา Mitch Morgan (แสดงโดย Billy Burke) โดย Jamie นั้นเป็นนักข่าวสาวที่มีความมุ่งมั่นยอมหักแต่ไม่ยอมงอ เธอคิดว่าพฤติกรรมสัตว์ที่เปลี่ยนไปนั้นเป็นเรื่องของทฤษฎีสมคบคิดที่มีผู้ใด หรือองค์กรใดองค์กรหนึ่งสร้างเรื่องขึ้นเพื่อเหตุผลบางอย่าง ซึ่ง Jamie เอง ก็ได้พบกับสัตวแพทย์ผู้ที่สืบความเปลี่ยนแปลงของสัตว์เช่นกันอย่าง Mitch โดยทั้งคู่สงสัยเรื่องพฤติกรรมของแมวที่อยู่รวมกลุ่มกัน และหายตัวไปจากเจ้าของ ทำให้เจ้าของแมวในเมือง Los Angeles ต้องตามหากันให้วุ่น หรือแม้แต่สัตว์ในสวนสัตว์กลับดุร้ายมากขึ้นอย่างไร้สาเหตุ และด้วยความที่ Jamie พยายามตามหาความจริงเรื่องนี้ กลับเหมือนมีผู้ขัดขวางเธอไม่ให้ขุดคุ้ยและเปิดโปงเรื่องนี้ ซึ่งถือเป็นปมสำคัญที่เราได้เจอในตอนแรกก็ว่าได้ครับ

Screenshot (1027) Screenshot (1028)

ซีรีส์เรื่องนี้ที่ผมชอบคงจะเป็นความฉลาดในการเล่าเรื่องที่มีการแบ่งเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน โดยในส่วนของตัวละคร Jackson ก็จะเป็นแบบป่าซาฟารี ซึ่งเราก็จะได้ลุ้นไปกับ Jackson ที่ต้องอยู่รายล้อมสัตว์ป่า แต่คนดูอย่างเราๆอาจจะรู้สึกว่าสัตว์ป่าที่จะทำร้ายมนุษย์เป็นเรื่องไกลตัว เพราะถ้าเราไม่ได้เป็นนักท่องป่าฝ่าดง เราก็อาจจะไม่ได้เจอสิงโตทำร้าย (ถ้าสิงโตหลุดจากสวนสัตว์นั่นก็เป็นอีกกรณีหนึ่งนะครับ) แต่เราก็จะรู้สึกสนุกตามกับการผจญภัยเล็กๆที่ตัวซีรีส์ต้องการจะนำเสนอ

แต่ในส่วนของ Jamie ฝั่งนักข่าวสาวที่อยู่ในเมืองนั้น มันกลับให้อารมณ์ความเป็น Thriller เพราะมันจะให้ความรู้สึกที่ว่าภัยมาจาก 2 ด้าน ด้านแรกเมื่อสัตว์เลี้ยงที่อยู่กับเรา กินนอนมาด้วยกันพฤติกรรมเปลี่ยนไป แฝงความร้ายกาจไว้ข้างใน เราจะนอนหลับลงได้อย่างไร ในเมื่อเราไม่อาจคาดเดาได้เลย ว่าสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราจะกลายเป็นฝันร้ายที่คร่าชีวิตเราหรือไม่ และภัยอีกอย่างนึงคือ ใครเป็นคนที่กำลังคุกคาม และพยายามหยุด Jamie ไม่ให้สืบและเปิดโปงเรื่องไม่ชอบมาพากล หรือนั่นจะเป็นทฤษฎีสมคบคิดที่มุ่งหวังผลร้ายต่อมนุษย์ด้วยกันเองอย่างที่ Jamie คิดเอาไว้ มันทำให้เรามีอารมณ์ร่วม ปนความฉงนว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

Zoo เป็นซีรีส์ใหม่ที่น่าจับตามองมากครับ เพราะด้วยการเล่าเรื่องที่ทำได้ดี ฉากต่างๆทำให้เรามีอารมณ์ร่วมไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแฝงไปด้วยแนวคิดให้เรารู้จักรักธรรมชาติ ใส่ใจและปฏิบัติกับเหล่าสัตว์ทั้งหลายให้ดี ลดการทารุณกรรมสัตว์เพื่อความสนุกสนาน ก็เป็นเรื่องที่มนุษย์อย่างเราๆที่มีสติปัญญาเหนือพวกเค้าควรจะทำครับ เพราะเมื่อใดแล้วที่ธรรมชาติเอาคืนมนุษย์ขึ้นมา เผ่าพันธุ์ที่เปราะบางทั้งร่างกายและจิตใจอย่างพวกเราอาจจะรับมือได้ยาก เพราะธรรมชาติมักมีทางเอาคืนมนุษย์ได้อย่างเจ็บแสบเสมอ และที่ผมอยากฝากคือเรื่องการเลี้ยงสัตว์ด้วย จงเลี้ยงเค้าด้วยความรัก อย่าทรมานเค้า เพราะในไทยเราก็มีกฎหมายคุ้มครองสัตว์แล้ว ถึงเค้าจะเอาคืนเราเหมือนในซีรีส์ Zoo ไม่ได้ แต่เค้าก็มีจิตใจ มีความรู้สึกเหมือนกับเรา เพียงแต่เค้าพูดไม่ได้ ก็ขอให้ทุกคนสนุกกับการรับชม Zoo นะครับ ซึ่งฉายทุกวันพุธ(ตรงกับเวลาไทย)ครับ [8.5/10]

*ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ มีอะไรก็ติชมมาได้เพื่อให้ผมใช้ในพัฒนางานเขียนในภายภาคหน้าครับ*

ใส่ความเห็น